วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2553

"เหมืองแร่รักษาดินแดน"



เคยได้ยินเรื่อง เหมืองแร่รักษาดินแดน กันมั้ยครับ
ท่านทำเพื่อชาติบ้านเมือง แต่สุดท้าย ท่านก็ต้องสูญเสีย บ้านศาลาแดง อันเป็นบ้านพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสูญเสียเงินส่วนตัวอีกเป็นจำนวนมากเพื่อชดใช้หนี้

คุณประสงค์ สุขุม หลานปู่ของท่านเจ้าพระยายมราช ได้เขียนไว้ในหนังสือ "จากยมราชถึงสุขุมวิท เหตุการณ์ใน ๔ รัชกาล" ของท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า

เป็นเรื่องรีบด่วนมาก รัชกาลที่ 6 ทรงรับข่าวจากการสืบราชการมาว่า อังกฤษจะมาขอสัมปทานเหมืองแร่ในดินแดนภาคใต้ต่อขึ้นมาจาก 4 จังหวัดที่ยึดไปแล้ว (กลันตัน ตรังกานู ปะลิส ไทรบุรี ปีนัง) แล้วจะถือโอกาสยึดครองดินแดนภาคใต้ต่อขึ้นมาอีก  โดยเฉพาะจะมาขอสัมปทานเหมืองแร่ใน จ.สุราษฎร์ธานี  จึงได้มีพระราชกระแสรับสั่งให้เจ้าพระยายมราชเข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ แล้วให้ไปทำเหมืองแร่ดักไว้ที่สุราษฎร์ โดยมีรับสั่งว่า

"ครูไปทำเหมืองแร่ดักไว้ที่สุราษฎร์ก่อน ฉันจะได้ใช้เป็นข้ออ้างที่จะไม่ให้สัมปทานเหมืองแร่แก่บริษัทอังกฤษ"

"ข้าพระพุทธเจ้าฯ พร้อมที่จะไปทำเหมืองดักไว้ทันที แต่ข้าพระพุทธเจ้าฯ ไม่มีเงินพอที่จะไปลงทุน เพราะจะต้องสร้างทางรถไฟเข้าในเขตเหมืองก่อน"

"ครูเอาเงินที่พระคลังข้างที่ไปก่อน เพราะงานนี้ต้องรีบทำ"

เจ้าพระยายมราชจึงได้ไปเซ็นยืมเงินจากพระคลังข้างที่มาสร้างทางรถไฟเข้าเหมือง และซื้อเครื่องจักรทำเหมืองมามอบให้ลูกชายคนโตที่มีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาสุขุมนัยวินิตไปบุกเบิกงานทันที

เมื่อได้ลงทุนไปแล้ว พอดีพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต  "เหมืองแร่รักษาดินแดน" ตามพระราชกระแสไม่มีรายได้ และไม่มีเงินจะลงทุนต่อไป

เจ้าพระยายมราชจึงต้องล้มเลิกโครงการและนำเงินส่วนตัวไปใช้หนี้พระคลังข้างที่เป็นจำนวนมาก

ทำให้ต้องมอบ "บ้านศาลาแดง"  ที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 5  และหุ้นส่วนบริษัทปูนซิเมนต์ไทยส่วนใหญ่ให้แก่พระคลังข้างที่  เพื่อเป็นการใช้หนี้ด้วย

แต่การลงทุนทำเหมืองแร่ดักไว้ในครั้งนั้น  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงใช้เป็นข้ออ้างที่จะไม่ทรงอนุญาตให้สัมปทานแก่บริษัทอังกฤษในสุราษฎร์  เพื่อเป็นการป้องกันการใช้อำนาจยึดดินแดนของไทยต่อขึ้นมาจากที่ได้ยึดไปแล้ว  เพราะได้เคยมีตัวอย่างมาแต่เดิมว่าเมื่อบริษัทอังกฤษเข้าทำเหมืองแร่หรือทำธุรกิจที่ต้องลงทุนสูงแล้ว  ต่อมาสักระยะหนึ่งก็จะอ้างว่าไม่ได้รับความสะดวก  และจะถือโอกาสขอให้รัฐบาลของเขาส่งทหารมาจากอินเดียเข้ายึดพื้นที่ของประเทศในแถบนั้นไปเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ...........

ปัจจุบัน โรงแรม ดุสิตธานี เป็นโรงแรมเก่าแก่แห่งหนึ่งในเครือดุสิตธานีของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 946 ถนนพระราม 4 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร อยู่บริเวณถนนสีลม ตัดกับถนนพระราม 4 ตรงข้ามกับสวนลุมพินี ก่อตั้งโดยท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2511 มีความสูง 23 ชั้น เป็นอาคารสูงหลังแรกในประเทศไทย สถานที่ตั้งโรงแรม เดิมเป็นบ้านศาลาแดง ของเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น