วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ภาพถ่ายสังสรรค์ลูกหลานพระยาสุนทรสงคราม (ปุย สุวรรณศร)



ดิบๆ จากกล้อง ร.ต.อ.สนธิชัย (ป้อม) สุวรรณศร ครับ เนื่องจากติดราชการไม่มีเวลาคัดเลือกและตกแต่ง ท่านผู้ใดถ่ายภาพไว้ช่วยส่งให้ผมที่ sonthichai_su@hotmail.com เพื่อรวมไว้ในที่เดียวกันหน่อยครับ ญาติที่ไม่ได้เล่น facebook hi5 หรือ twitter จะได้ดูภาพในนี้ได้สะดวกครับ..ขอขอบคุณ

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กำหนดการสังสรรค์ตระกูล "สุวรรณศร" 17 - 19 ธ.ค.53

วันที่ 17 ธ.ค.53
13.00น. check in เข้าที่พัก พักผ่อนตามสบาย
15.00น. รับประทานของว่าง หลังจากนั้นชมธรรมชาติพร้อมถ่ายรูป
18.00น. รับประทานอาหารเย็น พร้อมคาราโอเกะ"
วันที่ 18 ธ.ค.53
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย ออกเดินทางไปหมู่บ้านกระเหรี่ยง
และรับประทานอาหารกลางวันบริเวณแก่งส้มแมว หลังจากนั้นถ้าแรงยังเหลือเราจะไปเที่ยวชมฟาร์มตัวอย่างค่ะ หรือถ้าอยากกลับที่พักเลยก้อได้ค่ะ
ช่วงบ่าย รับประทานอาหารว่าง พักผ่อนตามอัธยาศัย"
 18.00น. รัปประทานอาหารเย็น พร้อมกิจกรรมอาทิ
- เรื่องเล่าของต้นตระกูล
- ร้องคาราโอเกะ
- การแสดงของเด็กๆๆๆ (งานนี้มีรางวัลๆๆๆๆๆๆๆ)
หมายเหตุ : ใครอยากได้เพลงอะไรแจ้งล่วงหน้าที่ตั๊ก089-1215188 ได้เลยค่ะ
วันที่ 19 ธ.ค.53
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว สามารถพักผ่อนตามอัธยาศัย
10.30น. เก็บสัมภาระ และออกเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพค่ะ"

copy จาก facebook ลอยด์ (แต่ทำไมลงท้ายค่ะ งง หรือลอยด์เปลี่ยนไป๋)

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ครอบครัวพันตำรวจเอก ศานิต สุวรรณศร







อยากประชาสัมพันธ์คนที่เป็นเยอรมันนะ ลอยด์ช่วยเขียนบอกแล้วกัน ทราบว่าวันนั้นร้องเพลงมีคนแอบร้องไห้ด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สถิติการเข้าชมเว็บบล็อก "สุวรรณศร"

จนถึงวันนี้มีญาติสกุล "สุวรรณศร" เข้าเยี่ยมชมเว็บบล็อกนี้ จำนวนทั้งสิ้น 280 ครั้ง มาจาก 6 ประเทศ ซึ่งจากประเทศแอฟริกาใต้ ผมทราบว่าเป็นน้องชายผมเองคือนายตฤณ สุวรรณศร นายกสมาคมวัฒนธรรมและการค้าไทยแห่งประเทศแอฟริกาใต้ ส่วนประเทศรัสเซีย แคนาดา สหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์ ขอความกรุณาแนะนำตัวพร้อมภาพถ่ายให้ญาติๆ ทำความรู้จักหน่อยครับ เผื่อใครสตางค์เหลือจะได้ขออนุญาตไปเยี่ยมเยียน (หรือถ้าตรงๆ ก็คือขอไปเที่ยวประเทศนั้น โดยไปพักด้วย จะได้ทุ่นค่าใช้จ่ายว่างั้นเถอะ อิอิ) ช่วงนี้ก็รู้สึกว่า ผมจะพยาายามหาข้อมูล และพยายามเขียนบทความเล็กๆ น้อยๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นเว็บนิ่งหรือเว็บตายตามที่ได้ร่ำเรียนมา และเพื่อรอข้อมูลบทความ รูปถ่ายจากญาติสกุลอื่นๆ ให้เกิดความน่าสนใจและความเคลื่อนไหวข้อมูล ข่าวสารอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลจากผู้ใด ก็เกือบจะท้อแล้ว แต่พอมาเห็นสถิติการเข้าชม ปรากฏว่ายังมีผู้เข้าชมอยู่ทุกวัน ก็ยังเป็นกำลังใจให้ทำต่อไปได้ จนกว่าจะหมดข้อมูลนำเสนอ และขาดความน่าสนใจ ก็.......ขอขอบคุณ

วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผมกับ พล.ต.ท.ชัย สุวรรณศร






       
   ในงานศพท่าน พล.ต.ท.ชัย  สุวรรณศร หลายๆ ท่าน รวมทั้งภรรยาและบุตรของท่านคงจะสงสัยว่า ผมเป็นใคร มีความสนิทสนมกับท่านขนาดไหน ถึงได้ไปงานศพทุกวัน ในวันพระราชทานเพลิงศพยังเป็นพิธีการจำเป็นให้อีก ประหนึ่งว่าเป็นญาติสนิทก็ไม่ปาน ขอเรียนว่า ป่าวเลยครับท่านกับผมเผอิญมีโอกาสรู้จักกันเมื่อปี พ.ศ.2527 ในปีนั้นผมสอบเข้าเป็นนักเรียนพลตำรวจนครบาล โดยมีอาที่ผมเคารพรักมากที่สุดคือ พ.ต.อ.ศานิต  สุวรรณศร เป็นผู้ค้ำประกันให้ผมได้เข้าเรียน ในตอนนั้น พล.ต.ท.ชัย  สุวรรณศร ดำรงตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้บัญชาการศึกษา อยู่ระหว่างการสร้างบ้านพักอาศัยหลังใหม่ที่ถนนวิภาวดีรังสิต จึงเข้าไปใช้อาคารผู้กำกับการโรงเรียนนายสิบเป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราว อาชาลี สุวรรณศร ซึ่งเป็นคนขับรถของท่านได้บอกให้ท่านทราบว่า มีหลานสุวรรณศรคนหนึ่งสอบเข้านักเรียนพลตำรวจได้ ท่านจึงเรียกไปพบ และเมื่อพบกันท่านเย้าว่า "ไม่ต้องบอกบอกว่าเป็นหลานใคร ขอเดาว่าปลัดเช้า" และภรรยาของท่านยังบอกว่า "ฉันเป็นย่าคนแล้วรึเนียะ" จากนั้นท่านให้ผมจัดเพื่อนไปทำงานที่บ้านพักทุกเช้าเย็น ทำให้พวกเรา 3 คน ได้ทานข้าวร้อนตลอดการศึกษา 1 ปีในโรงเรียนตำรวจ เนื่องจากต้องไปทานข้าวก่อนแล้วถึงไปทำงานบ้านท่าน ส่วนเพื่อนนักเรียนตำรวจที่เหลือกว่าจะได้ทานก็ถูกฝึกตามแบบตำรวจอยู่ พอทำงานเสร็จจะเข้าโรงเรียนก็ต้องดูก่อนว่าเพื่อนๆ หลังอาหารจะถูกทำโทษอะไรบ้าง (ซ่อม) ถ้าเสร็จแล้วพวกเรา 3 คนถึงจะกลับเข้าเรียน มีครั้งหนึ่งเพื่อนๆ ถูกทำโทษหลังอาหารเช้าไม่เสร็จซักที ทราบว่าเป็นเพราะ ไข่ต้มเพื่อนหายไป 1 ฟอง จึงถูกทำโทษจนกว่าไข่จะกลับมา (จะเป็นไปได้ไง) ผมต้องบอกให้เพื่อนผม 1 ใน 3 คน ที่ไปทานข้าวก่อนเขาแล้วทะลึ่งไปขโมยไข่เพื่อนกิน ให้ไปยอมรับแทนเพื่อนทั้งกองร้อย เรื่องถึงจบ ในระหว่างเรียนปู่ชัยได้มีหนังสือมาที่ผู้กำกับการโรงเรียนหลายครั้งว่า "ให้ นพต.(นักเรียนพลตำรวจ)สนธิชัย  สุวรรณศร จัดเพื่อนตำรวจ 10 คนบ้าง 20 คนบ้าง ไปทำงานที่บ้านใหม่ถนนวิภาวดีรังสิต ทำให้ช่วงนั้นผมในฐานะหลานผู้บัญชาการศึกษาเนื้อหอมมากๆ เพราะเพื่อนๆ ทุกคนซึ่งมีความคิดว่าอยู่โรงเรียนตำรวจเหมือนติดคุก ได้ออกไปข้างนอกเหมือนสวรรค์โปรด ต่างก็พยายามมาตีสนิทให้ผมเลือกไปทำงานที่บ้านปู่ชัย แถมได้เงินสดแบงค์ใหม่เอี่ยมจากธนาคาร(ท่านเป็นคนไม่ใช้แบงค์เก่า ผมสังเกตุทุกครั้งที่รับเงินมาแจกเพื่อนๆ) หลังจากเรียนจบ จากวันนั้นถึงวันนี้รวม 26 ปี ผมทราบตอนท่านป่วยหนัก จากอดีตนายเวรของท่านคือ พล.ต.ต.นิพนธ์  ภู่พันธ์ศรี (ผมให้โหวตให้ท่านเป็นนายเวรแห่งชาติ เนื่องจากท่านดูแลนายของท่านจนวาระสุดท้ายจริงๆ นับว่าหายากมากสำหรับนายเวรสมัยนี้)  ซึ่งโลกกลมทำให้ท่านมาเป็นผู้บังคับบัญชาของผมแจ้งให้ทราบเพราะเห็นว่าเป็นสุวรรณศรเหมือนกัน นั่นเป็นที่มาของการที่ผมไปงานศพ พล.ต.ท.ชัย  สุวรรณศร ทุกวัน...ขอให้พักผ่อนให้สบายนะครับคุณปู่..ป้อม หลานที่ไม่มีใครจำได้