วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผมกับ พล.ต.ท.ชัย สุวรรณศร






       
   ในงานศพท่าน พล.ต.ท.ชัย  สุวรรณศร หลายๆ ท่าน รวมทั้งภรรยาและบุตรของท่านคงจะสงสัยว่า ผมเป็นใคร มีความสนิทสนมกับท่านขนาดไหน ถึงได้ไปงานศพทุกวัน ในวันพระราชทานเพลิงศพยังเป็นพิธีการจำเป็นให้อีก ประหนึ่งว่าเป็นญาติสนิทก็ไม่ปาน ขอเรียนว่า ป่าวเลยครับท่านกับผมเผอิญมีโอกาสรู้จักกันเมื่อปี พ.ศ.2527 ในปีนั้นผมสอบเข้าเป็นนักเรียนพลตำรวจนครบาล โดยมีอาที่ผมเคารพรักมากที่สุดคือ พ.ต.อ.ศานิต  สุวรรณศร เป็นผู้ค้ำประกันให้ผมได้เข้าเรียน ในตอนนั้น พล.ต.ท.ชัย  สุวรรณศร ดำรงตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้บัญชาการศึกษา อยู่ระหว่างการสร้างบ้านพักอาศัยหลังใหม่ที่ถนนวิภาวดีรังสิต จึงเข้าไปใช้อาคารผู้กำกับการโรงเรียนนายสิบเป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราว อาชาลี สุวรรณศร ซึ่งเป็นคนขับรถของท่านได้บอกให้ท่านทราบว่า มีหลานสุวรรณศรคนหนึ่งสอบเข้านักเรียนพลตำรวจได้ ท่านจึงเรียกไปพบ และเมื่อพบกันท่านเย้าว่า "ไม่ต้องบอกบอกว่าเป็นหลานใคร ขอเดาว่าปลัดเช้า" และภรรยาของท่านยังบอกว่า "ฉันเป็นย่าคนแล้วรึเนียะ" จากนั้นท่านให้ผมจัดเพื่อนไปทำงานที่บ้านพักทุกเช้าเย็น ทำให้พวกเรา 3 คน ได้ทานข้าวร้อนตลอดการศึกษา 1 ปีในโรงเรียนตำรวจ เนื่องจากต้องไปทานข้าวก่อนแล้วถึงไปทำงานบ้านท่าน ส่วนเพื่อนนักเรียนตำรวจที่เหลือกว่าจะได้ทานก็ถูกฝึกตามแบบตำรวจอยู่ พอทำงานเสร็จจะเข้าโรงเรียนก็ต้องดูก่อนว่าเพื่อนๆ หลังอาหารจะถูกทำโทษอะไรบ้าง (ซ่อม) ถ้าเสร็จแล้วพวกเรา 3 คนถึงจะกลับเข้าเรียน มีครั้งหนึ่งเพื่อนๆ ถูกทำโทษหลังอาหารเช้าไม่เสร็จซักที ทราบว่าเป็นเพราะ ไข่ต้มเพื่อนหายไป 1 ฟอง จึงถูกทำโทษจนกว่าไข่จะกลับมา (จะเป็นไปได้ไง) ผมต้องบอกให้เพื่อนผม 1 ใน 3 คน ที่ไปทานข้าวก่อนเขาแล้วทะลึ่งไปขโมยไข่เพื่อนกิน ให้ไปยอมรับแทนเพื่อนทั้งกองร้อย เรื่องถึงจบ ในระหว่างเรียนปู่ชัยได้มีหนังสือมาที่ผู้กำกับการโรงเรียนหลายครั้งว่า "ให้ นพต.(นักเรียนพลตำรวจ)สนธิชัย  สุวรรณศร จัดเพื่อนตำรวจ 10 คนบ้าง 20 คนบ้าง ไปทำงานที่บ้านใหม่ถนนวิภาวดีรังสิต ทำให้ช่วงนั้นผมในฐานะหลานผู้บัญชาการศึกษาเนื้อหอมมากๆ เพราะเพื่อนๆ ทุกคนซึ่งมีความคิดว่าอยู่โรงเรียนตำรวจเหมือนติดคุก ได้ออกไปข้างนอกเหมือนสวรรค์โปรด ต่างก็พยายามมาตีสนิทให้ผมเลือกไปทำงานที่บ้านปู่ชัย แถมได้เงินสดแบงค์ใหม่เอี่ยมจากธนาคาร(ท่านเป็นคนไม่ใช้แบงค์เก่า ผมสังเกตุทุกครั้งที่รับเงินมาแจกเพื่อนๆ) หลังจากเรียนจบ จากวันนั้นถึงวันนี้รวม 26 ปี ผมทราบตอนท่านป่วยหนัก จากอดีตนายเวรของท่านคือ พล.ต.ต.นิพนธ์  ภู่พันธ์ศรี (ผมให้โหวตให้ท่านเป็นนายเวรแห่งชาติ เนื่องจากท่านดูแลนายของท่านจนวาระสุดท้ายจริงๆ นับว่าหายากมากสำหรับนายเวรสมัยนี้)  ซึ่งโลกกลมทำให้ท่านมาเป็นผู้บังคับบัญชาของผมแจ้งให้ทราบเพราะเห็นว่าเป็นสุวรรณศรเหมือนกัน นั่นเป็นที่มาของการที่ผมไปงานศพ พล.ต.ท.ชัย  สุวรรณศร ทุกวัน...ขอให้พักผ่อนให้สบายนะครับคุณปู่..ป้อม หลานที่ไม่มีใครจำได้

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ6 สิงหาคม 2566 เวลา 12:37

    ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เข้ามารู้จัก เกี่ยวข้องกับสกุล และ ลูกหลานสุวรรณศร ขอให้มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะครับ

    ตอบลบ